วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

สถาปนิก Idol รุ่นพี่ลาดกระบัง

สถาปนิก IDOL  รุ่นพี่ลาดกระบัง



ชื่อ :                  อัศวิน ไทรสาคร  ( พี่ปุ้ม )
ตำแหน่ง :        ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา  .ศรีปทุม
อีเมล์ :               aswin.sa@spu.ac.th
ปีที่เข้าศึกษาที่สถาปัตย์ ลาดกระบัง :    ปี 2529
ออกแบบสถาปัตยกรรม :     สถาปัตยกรรมแบบไทยร่วมสมัย โรงแรม รีสอร์ท บ้านพักอาศัย
วุฒิการศึกษา :             ++  ปริญญาโท: สถ.ม. (สถาปัตยกรรมเขตร้อน)
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
  ++  ปริญญาตรี: สถ.บ. (สถาปัตยกรรมศาสตร์)
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ประสบการณ์การทำงาน :    ++ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม  , 
                                                         ตำแหน่ง: อาจารย์ประจำ
                                                 ++ บริษัท มะพี จำกัด ,   ตำแหน่ง: ผู้จัดการฝ่ายออกแบบ 
                                                 ++ บริษัท สาลา แอนด์ แอทโซซิเอทส์ จำกัด ,  ตำแหน่ง: สถาปนิก
         ++ บริษัท องศา สถาปนิก จำกัด    ,  ตำแหน่ง: สถาปนิก 




       >>  ประวัติส่วนตัวเล็กน้อย  ???

ผมเข้าปี 2529 จบปีการศึกษา 2533 ผมก็ไปทำงานที่ บริษัท องศา สถาปนิก ของ พี่ห้าว ดร.ชเล คุณาวงศ์ ผมทำงานอยู่ปีนึง ก็ย้ายออกมาทำที่บริษัท สาลา แอนด์ แอทโซซิเอทส์  อยู่ 2 ปี หลังจากนั้นก็ออกมาทำของตัวเองเพราะช่วงนั้นเศรษฐกิจดีมาก งานนอกมันเยอะ ไม่อยากเอาเปรียบบริษัท  และก็ได้จังหวะที่จะเรียนต่อปริญญาโทพอดีด้วย ตอนแรกกะจะต่อเมืองแต่งานมันเยอะจริงๆ ช่วงปี 36-37 เศรษฐกิจมันดีจริงๆ เงินใช้ไม่ทันเพราะเอาแต่ทำงาน พอปี 40 เศรษฐกิจฟองสบู่แตก ออฟฟิศผมเลยต้องปิดตัวลง  แต่ก่อนหน้านั้น ปี 38 ผมก็เริ่มมาเป็นอาจารย์พิเศษ ม.ศรีปทุมแล้วนะ พอปี 40 เลยไปต่อโทเพื่อจะมาเป็นอาจารย์ประจำที่นี่ เรียนโทที่เขตร้อน ลาดกระบังครับ เป็นอาจารย์แล้วก็ยังรับงานออกแบบอยู่นะ เพราะมันจะทำให้เราเอาประสบการณ์มาเล่าให้นักศึกษาฟังได้ ซึ่งเราสอนวิชา วิชาชีพ  และดีไซน์ ก็ต้องเอาชีวิตจริง ประสบการณ์จริงมาสอน





      >>  งาน หรือ ผลงานของพี่ที่พี่คิดว่า เป็นตัวอย่างที่ดีในการปฏิบัติวิชาชีพ คืออะไร ???

พี่ตั้งใจทำงานทุกงานนะ เพราะเป็นงานที่เรารัก  ผลงานที่ออกมา มันก็เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่อย่างนั้นไปจนกว่าจะพังสลายไปข้างนึง ถ้ามันไม่ดีมันก็เป็นกองขี้ที่ประจานเราไปตลอดนั่นแหละ งานที่ดีที่สุดสำหรับผมจึงไม่มี ต้องให้คนอื่นตัดสิน  การทำงานเต็มที่ของผม เดี๋ยวลองยกตัวอย่างให้ฟังนะ    ลูกค้าฝ่ายภรรยาเป็นคนไทยเชื้อสายจีน สามีเป็นชาวอังกฤษ บ้านที่ออกมาก็เลยเป็นลูกครึ่งจีน-อังกฤษ พอเราส่งแบบร่างไป 2-3ครั้งแรก เขาก็ชอบและตกลงแล้ว แต่เราบอกว่า ยัง ผมบอกเค้าว่ามันน่าจะไปได้อีกนะ  เรารู้ว่าเราทำได้ดีกว่านี้  จริงๆการที่เราจบงานเร็วเราก็จะได้เงินเร็วเป็นผลดีต่อเรา แต่ผมยังไม่พอใจ ผมรู้ว่าทำได้ดีกว่านี้ เลยส่งแบบไปอีก 4 ครั้ง งานรั้วก็ไม่ได้อยู่ในสัญญา ผมอยากทำ ผมก็ศึกษารูปแบบรั้วแบบจีน- อังกฤษ  แล้วออกแบบให้ เราก็ทำให้ดีที่สุด 










RESORT


         ภูเก็ต ในทอน รีสอร์ท  (Phuket  Naithon  Resort)

เป็นงานที่รู้สึกสนุกที่สุดเลย ตอนนั้นทำอยู่กับบริษัท สาลา เจ้าของโครงการเป็นเพื่อนกับเจ้าของบริษัท เขาเลยส่งเราไปทำ โดยตรง คือ เราจะเรียกค่าแบบเท่าไหร่ก็ได้ บริษัทไม่เข้าไปยุ่ง ใจดีเนอะ 555  ผมก็บ้าพอที่จะบอกว่าไม่เอาค่าแบบ ตอนนี้ยังคิดอยู่ว่าทำไปได้ยังไง  เจ้าของชื่อคุณ เรวุฒิ  เราคุยกับเขาถูกคอมาก คือเขาปล่อยเรา อยากทำอะไรก็ทำ มีที่ดินเปล่าให้ ผมก็เอาเต้นท์ไปกางนอนดูทะเลอยู่ 3 คืน ดีไซน์ตรงนั้น เลย มันจะได้อิน  เราก็เลยสนุกกับงานมาก ออกแบบอะไรไปเขาตกลงหมด ผมเลยบอกว่าไม่เอาค่าแบบแล้วกัน แต่ผมขอค่าตั๋วเดินทางมาดูไซต์ ค่ากิน ค่าอยู่ ได้บ่อยเท่าที่ผมต้องการ  เขาก็ตกลง รีสอร์ทนี้ ผมใช้ไม้จันทัน 6x6 เอามาถากๆ ให้มันดูดิบๆหน่อย ผมบอกว่า ไม้ที่ผมใช้เนี่ยสร้างบ้านได้อีก 3 หลังเลยนะ แต่หน้าตัดที่ออกมามันจะสวยมากกว่าไม้บางๆ ที่เหมือนบ้านพักคนงาน  เขาก็เอากับเรา ผมอยากได้ผนังฉาบนุ่มก็บอกให้คนงานทำแต่คนงานทำไม่เป็น ผมก็เลยขึ้นไปฉาบเอง จริงๆผมฉาบไม่เป็นหรอกนะ แต่ไม่รู้จะอธิบายยังไง มันเป็นภาพในหัวผมนะว่ามันเป็นอย่างไร  งานนี้จึงเป็นงานที่ผมสนุกกับมันที่สุด


   




























         



 Bangsapan Coral Hotel ประจวบคีรีขันธ์

                  เจ้าของเป็นคนฝรั่งเศส แต่อยากได้รีสอร์ทแบบไทย ๆ เราเลยศึกษาจากสถาปัตยกรรมโดยรอบว่าท้องถิ่นนั้นเป็นอย่างไร ศึกษา venecular design แล้วก็ออกแบบให้เป็นไทยๆ โดยที่กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ ตามที่ลูกค้าต้องการ













HOUSING



งานนี้เป็นงานของพี่สะใภ้ผมเอง โจทย์คือ มีงบน้อย ประมาณล้านสี่  เป็นบ้านชั้นเดียว สร้างให้พ่อแม่อยู่เขาอยู่ด้วย ช่วงนั้นผมก็เรียนเขตร้อนมา ผมก็เลยอยากปล่อยของสักหน่อย ผมใช้หน้าต่างเก่า  ติดแอร์เฉพาะห้องนอน ห้องอื่นเลยต้องออกแบบให้ระบายอากาศได้ อยู่สบาย ไม่ร้อน เป็นหลังคาlean toสองตัว overlap กันให้ความร้อนมันระบายขึ้นไปได้
เราก็ไม่ชอบหลังคาโมเนีย  เลยใช้กระเบื้องไตรลอนสีขาว  ปัญหาบ้านเราตรงนี้ก็คือวัสดุมีให้เลือกน้อยไปหน่อย บางทีจะหาวัสดุที่มันพอดีก็ไม่ค่อยมี


 






















INTERIOR



ช่วงหลังผมก็มีงานออกแบบภายในค่อนข้างเยอะ  งานinteriorที่สนุกอีกงานก็เป็น ร้านอาหาร water cress ที่ K Village สุขุมวิท 24  คือ ร้านอาหารที่นี่แข่งขันกันสูง ต้องสวย ดูมีอะไร เลยเอาไม้ไผ่ มาออกแบบเล่นกับผนัง ใช้เหล็ก กระจก ไม้ ซึ่งปัญหาอันนี้คือ ผู้รับเหมาไม่เล่นด้วย บอกว่า มันทำไม่ได้ มันทำยาก  การแก้ปัญหาของผมก็คือ ไม่ใช้วิธีรุนแรงเพราะเรายังต้องทำงานด้วยกันอยู่ วิธีก็คือ  ผมทำให้ดู ลงไปเป็นช่างเองทั้งที่ทำไม่เป็น เพราะเราออกแบบให้ไม้ไผ่ติดกับโครงเหล็กแล้วบิดไปบิดมา ซึ่งมันค่อนข้างยุ่งยาก  ไม่มีแบบมีแต่ตีฟให้ดู เลยทำ 1:1 ให้เค้าดูเลย เอามาวางเรียงแล้วให้เขาเอากลับไปทำที่โรงงาน  






        >>  อุปสรรคในการปฏิบัติวิชาชีพคืออะไร ???
ข้อแรกก็คือ คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจอาชีพสถาปนิกนะ เขาคิดว่างานของเราแค่เขียนแบบ  แต่ไม่ใช่เลยมันคือการเอาองค์ความรู้ทั้งหมดที่เราเรียนมา 5 ปี เอาสรรพวิชาทั้งหมดมาสร้างสรรค์ผลงานออกมา ทุกวิชาสำคัญหมด แต่ลูกค้าก็บ่นว่าทำไมมันแพงอย่างนี้ เขาไม่เข้าใจเรา บางทีเราก็เบื่อนะ เพราะมันเป็นการร่วมกันทำงานระหว่างเรากับลูกค้า ไม่เราฝ่ายเดียว
ข้อสองก็คือ ปัญหาหน้างาน  นี่ก็อีกส่วนหนึ่ง ลูกค้าก็บอกว่าทำไมถึงมีปัญหา ทำไมไม่เขียนแบบให้เคลียร์  แต่ปัญหามันคือธรรมชาติของงาน หน้าที่ของเราคือแก้ปัญหา  ลูกค้าคิดว่าเราจะเข้าไปคุมงานได้ตลอด  เขาไม่เข้าใจระหว่างสถาปนิกคุมงานกับสถาปนิกผู้ออกแบบ เราควรจะเคลียร์กับลูกค้าก่อน ว่าในราคานี้เขาจะได้อะไร ไม่ได้อะไรบ้าง ต้องเคลียร์นะ



       >>  พี่คิดเห็นอย่างไรกับ จรรยาบรรณวิชาชีพ ???

คือ จรรยาบรรณ  พูดไปมันก็เท่านั้นนะ  เอาอย่างนี้ พี่ตกวิชาprofessinal practice 2 รอบ ตอนปี 4 คำถามก็คือ พี่เป็นคนเลวใช่มั้ย ถ้าเป็นอย่างนั้นนะ  เราเอาอะไรวัดกันดีว่าใครดีใครเลว มันอยู่ที่สำนึกล้วนๆ  มันไม่มีอะไรบอกได้เลยว่าถ้า จรรยาบรรณคุณได้ A แล้วคุณจะเป็นคนดี  คุณก็แค่ท่องเก่งแล้วก็สอบได้  มันไม่ได้บอกอะไรเลย มันอยู่ที่สำนึก สังคม ครอบครัว มันมีช่องทางให้เราทำไม่ดีเยอะแยะไป กฎหมายมันมีช่องโหว่เยอะ สำนึกอย่างเดียวเลย  เช่น พี่ยกตัวอย่าง ตัดราคากันเองกับเพื่อนร่วมวิชาชีพ หรือกับเพื่อนที่กอดคอ เล่นหัว เมาด้วยกันมา วันนึง ลืมไปแล้วมาตัดงานด้วยกันเองด้วยวิธีตัดราคาหรือไม่ก็ด่างานคนอื่นแทนเพื่อที่เราจะได้งานเอง พวกนี้มันจรรยาบรรณทั้งนั้นแหละ  สุภาษิต ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน ยังคงใช้ได้นะ เพราะวงการสถาปนิกเรามันไม่ใหญ่นะ ทำอะไรใครก็รู้หมด การทำดีต้องเกิดจากสำนึกที่ดี


         >>  พี่คิดเห็นอย่างไรกับการออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม ???

                มันสำคัญนะ คือพี่เรียนเขตร้อนมา ก็เอามาใช้ทำ passive design ให้ลูกค้า แต่การออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อมเนี่ย มันจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเยอะ แต่มันคุ้มในระยะยาว ลูกค้าก็ไม่เข้าใจ การโน้มน้าวใจคนให้ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม สำหรับอาชีพสถาปนิก มันสำคัญนะ เราจะได้ยินคำว่า ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่   ถ้าเราทำแบบนั้น เราก็เป็นเพียงช่างก่อสร้างคนนึงที่เจ้าของอยากได้อะไรก็สร้างให้ แต่ในหน้าที่สถาปนิก เราก็ต้องให้ความรู้ลูกค้าด้วยว่าอะไรดี ไม่ดี แต่การเลือกก็ขึ้นอยู่กับเขา แต่เราก็ต้องโน้มน้าวใจเขาด้วย  ให้เลือกสิ่งที่ถูกเพราะถ้าเราไม่ทำแล้วใครจะทำ ใครจะรู้เรื่องนี้ ก็มีแต่เราที่เป็นสถาปนิกนะ


       >> พี่ๆ คิดว่า สถาปนิกรุ่นใหม่ๆ ที่ลาดกระบังผลิตออกมา มีคุณภาพอย่างไร ต้องการให้ภาควิชาปรับปรุงลักษณะบัณฑิตออกมาให้เป็นอย่างไร ???

           ผมยังเชื่อในคุณภาพของเด็กสถาปัตย์ ลาดกระบังอยู่นะ คือมันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีขึ้นมีลง ไม่มีทางจะขึ้นได้ตลอดหรอก ผมก็ยังเห็นน้องๆที่จบไป  ทำงานได้ดี
ลาดกระบังก็ยังเป็นแนว conservative เหมือนเดิม อันนี้ผมอยากให้เปลี่ยนนะ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ บางคนก็มีอีโก้เยอะเกินไปก็ยากที่จะพัฒนา  ตอนก่อนหน้านี้ที่ ม.รังสิตเปิดสอนสถาปัตย์ใหม่ๆ อ.พรชัย บุญสม เคยทำงานกับกลุ่ม morphosis เป็นแนว deconstruction เขาเข้ามาสอน เด็กรังสิตก็ตื่นเต้น ทำงานออกมา เป็น model ที่ใช้วัสดุอื่น พวกเหล็ก แล้วก็เอาputty มาปาดทำสีแบบล้ำไปเลยนะ  พวก model  monotone ศิลปากรก็ทำมานานแล้ว ในขณะที่ลาดกระบังยังเป็น realistic อยู่ ซึ่งตรงนี้เนี่ย เราควรจะหันมองรอบข้างบ้าง ว่าใครไปถึงไหนกันแล้ว อย่ามองว่าเขาเป็นน้องใหม่ ตามไม่ทันเป็น ม.เอกชน  ซึ่งนั่นเป็นวิธีคิดที่แย่มากน คือถ้าเริ่มต้นมองคนอื่นแย่ มันก็จบแล้ว  เพราะคุณก็ไม่ฟังใครแล้ว  อย่าไปติดกับวัฒนธรรมองค์กร ผมว่าเด็กลาดกระบังก็เป็นนะ เช่น ระบบเชียร์ทุกวันนี้ยังเหมือนเมื่อก่อน ตอนที่ผมเข้ามามันแทบจะไม่มีคอมพิวเตอร์ ในโลกของผมเนี่ยมันต่างจากตอนนี้มาก แต่เชียร์ของเราก็ยังเป็นเหมือนเดิม โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว บริบทคนในสังคมก็เปลี่ยนด้วย เมื่อก่อนบริบทของผมมันมีคนมาเจอกัน เล่นกีตาร์ นั่งร้องเพลงใต้ตึกกันทุกวัน แต่บริบทตอนนี้มันอยู่ที่จอ screen กันไปหมดแล้วแต่เชียร์ของเรายังคงเหมือนเดิม  จริงๆเราควรจะมาดูว่าของเดิมมันดียังไง ไม่ดียังไงแล้วเอามาปรับเปลี่ยนให้เข้ากับบริบทตอนนี้มากกว่า
บางทีวัฒนธรรมองค์กรเราอาจจะมีปัญหานะ คุณภาพเด็กตอนนี้ยังพอใช้ได้แต่นานๆไปอาจจะมีปัญหา คู่แข่งเราเยอะนะครับ สมัยก่อนมีแค่ 3 เดี๋ยวนี้มี 20 กว่าสถาบัน  แต่คงอีกนานเพราะตอนนี้ชื่อเรายังขายได้ แต่คำถามก็คือเราจะขายของเก่ากินอีกนานไหม

         >>  พี่ๆ ช่วยเล่าบรรยากาศ สมัยที่เรียน ณ ลาดกระบัง ว่า เรียนกันอย่างไร ใช้ชีวิตและกิจกรรม ในคณะฯอย่างไร ???

ข้อดีของมหาวิทยาลัยรัฐก็คือระบบรหัสนะ  การที่บรรยากาศของเรามีรุ่นพี่ รุ่นน้องเนี่ย มันดีตรงที่พี่ไปดูแลน้องได้ แล้วความรู้มันได้จากตรงนั้นเยอะมากๆ ตัดโมเดล เขียนตีฟก็ได้ความรู้มาจากรุ่นพี่ ได้เทคนิคเต็มไปหมด เมื่อก่อนห้องที่มีแอร์ก็ห้องปริญญาโทห้องเดียว  สตูเมื่อก่อนก็ร้อนนะแต่คงไม่เท่านี้ นั่งเขียนแบบไปกระดาษไขก็ย่นไป  555 การมีรุ่นพี่รุ่นน้องเนี่ย ทำให้รุ่นพี่ยังอยากกลับไปอยู่เรื่อย เหมือนงาน Bee-Day ที่ผ่านมา เพราะมันผูกพันเหมือนบ้าน
สมัยก่อนพี่เป็นพิธีกรคณะตั้งแต่ปี 1 ยันจบ เข้าเชียร์ทุกครั้งไม่เคยขาด ตั้งแต่ปี 1 ยันปี 5 เลย ชอบบรรยากาศห้องเชียร์ นั่งแซวน้องเล่นมีความสุข มีความสุขในการเรียกชื่อคณะน้องๆ  ปัจจุบันนี้ร้องเหมือนจะไปประกวด KPN นะ 555   พี่เป็นคนนครปฐม ก็เลยนอนบูท เช่าหอใกล้ๆคณะเหมือนกันนะ  ตั้งแต่อยู่ปี 1 เราก็มานอนค้างกับพี่ปี 5 แล้ว เรารู้จักหมดทุกสาขา  ปี1 นี่วิ่งไปทุกภาค รู้จักคนหมด สนุก ตื่นเต้น เป็นชีวิตที่เราไม่เคยเห็น เลยรู้จักคนเยอะ ไม่สนุกอย่างเดียวตอนอยู่ปีห้า เพราะน้องๆคิดว่า พี่ปุ้ม รู้จักคนเยอะ คนช่วยเยอะอยู่แล้ว แต่ทุกคนดันคิดเหมือนกันหมด สรุปคือแทบจะไม่มีคนมาช่วยเลย  จนช่วงใกล้ๆน้องรหัสถึงมาช่วย ทำเอาเราใจเสียเลยนะ
พี่ทำทีสิส  Aquarium เพราะความชอบ ความสนุกเราถึงผ่านมันมาได้ พี่บอกไว้เลยว่ามันยากมาก ไม่รักจริงอย่าทำเลยนะ ตอนนั้นมีรุ่นพี่เตือนหลายคนพี่ก็ไม่ฟัง  การทำ Aquarium เนี่ยมันเหมือนกับเราทำ 2-3 ทีสิสเลยนะ แล้วพี่ก็ยังดันทำ contour อีก ต้องรักจริงๆ คือพี่เป็นคนชอบทะเล และชอบดำน้ำด้วย เลยอินสุดๆ สนุก  แต่เราก็ผ่านช่วงนรกนั้นมาได้ ทีสิสนี่พี่หมดกระทิงแดงไป 43 ขวด ต้องทุ่มเทให้มันผ่านไปได้เพราะพี่อยากจบทีสิสด้วย A พี่ทำเต็มที่นะ การที่จะเอาชนะสถิติเนี่ย คือคุณต้องทำเกินสถิติไปอีก การตั้ง A คือการทำให้สุดๆไปเลย เป็นการเอาชนะตัวเองนะ จนสุดท้ายเราก็ผ่านช่วงนั้นมาได้ จนพี่ได้ A ทีสิส ทำให้เราเข้าใจชีวิตช่วงนั้นๆมากเลยทีเดียว  



       >>  ข้อคิดที่สำคัญในการ ทำงานคืออะไร? การปฏิบัติตนต่อการทำงานทำอย่างไร  ???


1.   เราต้องตั้งเป้าหมายกับชีวิตสักอย่างนึงนะ จะทีสิสหรือจะชีวิตก็ต้องตั้งสักอย่าง
2.   เมื่อเราตั้งเป้าหมายแล้วก็ต้องมีวินัยกับมันนะ เหมือนการลดความอ้วนนะ แค่เราผิดกับมันแค่วันเดียวน้ำหนักก็กลับมาแล้ว
3.   เราต้องทำงานให้เต็มที่เพราะลูกค้าก็ตั้งความหวังไว้กับเราเช่นกัน ลูกค้ากับเราต้องไว้ใจซึ่งกันและกันนะถึงจะช่วยกันให้งานที่ออกมามันจบได้ด้วยดี
4.   เราต้องให้เกียรติตัวเอง อย่าไปทำทุกอย่างเพื่อเงิน อย่ายอมในสิ่งที่ลูกค้าบางคนดูถูกเรา เราต้องมีศักดิ์ศรีนะ  บางทีลูกค้าต่อราคาเรามากๆจนเราไม่ไหว เราต้องรู้ระดับราคาเพดานของเราว่าลดได้แค่ไหน ถ้าเราลดราคาได้ถูกมากตามที่ลูกค้าต้องการ เราก็เป็นสถาปนิกราคาถูก  เขาจ้างเราก็เพราะเราราคาถูก เราควรจะภูมิใจมั้ย ลูกค้าไม่ได้จ้างเราเพราะฝีมือเลยนะ  ควรไว้ตัวสักหน่อยนึง แต่เราก็ต้องมีตัวให้ไว้นะ
5.   อย่าหยุดเรียน ไม่ได้หมายความว่าให้เรียนต่อปริญญาโทนะ แต่ให้อ่านหนังสือเยอะๆ หาความรู้ตลอด take course เรื่องอะไรก็เรียนไป เราอาจจะได้ใช้ในวันนึงก็ได้ เราไม่มีทางรู้ได้หรอก เช่น ที่พี่เป็นพิธีกรตั้งแต่อยู่เนี่ย และก็ชอบทำกิจกรรม จนมาอยู่ที่นี่พี่ก็อยู่ฝ่ายกิจกรรมนักศึกษามาตลอด และก็ยังเป็นพิธีกรมาจนทุกวันนี้ บางทีก็ไปบรรยายพิเศษเรื่องที่เราเคย take course  มันเป็นงานต่อยอด  ตัวเราต้องหาความรู้เพิ่มเรื่อยๆ จะได้พัฒนาตนเอง
    
        


           สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณ พี่ปุ้ม  อ.อัศวิน  ไทรสาคร มากๆค่ะ  ที่สละเวลามาให้สัมภาษณ์ ครั้งนี้   พี่ได้สอนการใช้ชีวิต การปฎิบัติวิชาชีพ เล่าประสบการณ์การทำงานจริง ให้ฟัง โดยเฉพาะประสบการณ์การทำทีสิสของพี่  ได้แรงบันดาลใจมาเป็นกอบเป็นกำเลยคะ และยังเก็บไฟล์เสียงไว้เปิดฟังตอนหมดกำลังใจได้อีกด้วยคะ  ขอบคุณมากๆค่ะ พี่ปุ้ม  ;)  








เรียบเรียงโด

นางสาวธันยพร  กรวัฒนานนท์  52020038
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาสถาปัตยกรรม
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
สัมภาษณ์วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 16.30-18.00 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น